การบริหารงานพัสดุ-สินทรัพย์
จัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปี มีคำสั่งแต่งตั้งผู้รับผิดชอบด้านการเงินและสินทรัพย์ ตามหมวดบริหารงานด้านงบประมาณการให้ความร่วมมือ และรับข้อเสนอแนะจากำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ในระเบียบใหม่เพื่อให้บุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง สามารถจัดทำบันทึกรายการควบคุมเงินของสถานศึกษา มีหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน มีการบริหารจัดการพัสดุ มีรายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณ และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการการเงิน และสินทรัพย์ ถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้และเป็นปัจจุบัน
แต่งตั้งบุคลากรดำเนินงานบริหารพัสดุและสินทรัพย์- นายสังวาลย์ คำจันทร์ ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน หัวหน้ากลุ่มงานอำนวยการ
- นางมาลินี พัวตระกุล ตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ หัวหน้างกลุ่มงานงบประมาณ
- นางจารุวรรณ อภินันท์ธรรม ตำแหน่ง ครูชำนาญการ หัวหน้าพัสดุ /EGP
- นายทนง ไขทา ตำแหน่งครู เจ้าหน้าที่พัสดุ/บัญชี
- ดำเนินการจัดซื้อ จัดจ้าง จัดหาวัสดุ ครุภัณฑ์ ตรวจรับ ลงทะเบียนรับผิดชอบ เก็บรักษา ให้ครบขั้นตอน ให้เป็นไปตามระเบียบ ถูกต้องเรียบร้อยทุกขั้นตอน ดำเนินการให้รวดเร็วทันเวลา ควบคุมดูแลการจัดซื้อ จัดจ้าง ให้เป็นไปโดยประหยัด ได้พัสดุที่มีคุณภาพ
- ดำเนินการจัดทำบัญชีพัสดุ และทะเบียนครุภัณฑ์ และดำเนินการขึ้นทะเบียนที่ราชการพัสดุ จัดทำบัญชีวัสดุ และทะเบียนครุภัณฑ์ให้เป็นปัจจุบัน ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต้องดำเนินการขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ หรือมีการลงทะเบียนเกี่ยวกับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไว้ที่โรงเรียน ควบคุมการเบิกจ่ายพัสดุ ดำเนินการให้ถูกต้อง ตามระเบียบเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
- ติดตามการดูแลปรับซ่อมและบำรุงรักษาพัสดุ จัดให้มีการวางแผนปฏิบัติการ มีงานปรับซ่อมไว้ในแผนปฏิบัติการของโรงเรียน มีการตั้งงบประมาณค่าใช้จ่ายในการปรับซ่อมและการ
- บำรุงรักษา ควบคุมดูแลให้มีการปรับซ่อม และบำรุงรักษาพัสดุเป็นประจำ มีการดำเนินการแนะนำวิธีใช้และปรับซ่อมรักษาพัสดุของโรงเรียน
- ดำเนินการให้มีการตรวจสอบประจำปีและจำหน่ายพัสดุ ควบคุมดูแลบัญชีวัสดุ ทะเบียนครุภัณฑ์ รายงานการตรวจรับ – จ่ายพัสดุประจำปี รายงานการตรวจสอบวัสดุถาวร หลักฐาน
- การอนุมัติจำหน่ายและเอกสารอื่น ๆที่เกี่ยวข้อง ติดตามให้มีการดำเนินการตรวจสอบพัสดุประจำปีและตรวจสอบวัสดุถาวร โดยต้องให้รายงานทันกำหนด ดำเนินการจำหน่ายพัสดุตามระเบียบว่าด้วยพัสดุ
- ดำเนินการจัดทำเอกสาร แนะนำวิธีใช้ การปรับซ่อม หรือระเบียบต่าง ๆ ที่จำเป็น จัดทำแบบรายงาน แบบฟอร์มในการจัดซื้อ จัดจ้าง
- ดำเนินการใช้บริการด้านวัสดุ ครุภัณฑ์แก่บุคลากรฝ่ายต่าง ๆ ในโรงเรียนได้รวดเร็ว ทันกำหนดเวลา
- ควบคุมดูแลการประเมินผลด้านงานพัสดุ มีการจัดทำข้อมูลสถิติเกี่ยวกับงานพัสดุ
- ปฏิบัติงานอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย
แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำรายงานการติดตามประเมินผลการควบคุมภายใน/ตรวจ
ติดตามผลการปฏิบัติงานของโรงเรียนบ้านหัวดอย ประจำปีงบประมาณ
- การใช้จ่ายงบประมาณไม่เป็นไปตามหมวดและไม่ทันระยะเวลาที่กำหนดควบคุมภายใ
- กระบวนการจัดชื้อจัดจ้างไม่เป็นไปตาม พรบ.การจัดชื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ และระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น แบ่งชื้อแบ่งจ้าง, ข้อมูลประกอบการจัดชื้อไม่สมบูรณ์
- จัดทำคู่มือ/แนวทางปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
- ศึกษาระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการจัดชื้อจัดจ้างให้เข้าใจถึงวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง
- มีระบบพี่เลี้ยงให้กับหน่วยงานพัสดุ (ส่งต่อฝ่ายตรวจสอบ สพป)
- ป้องกันหรือลดความเสี่ยงจากการเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ
- การให้บุคลากรถือปฏิบัติตามวิธีการควบคุมโดยเคร่งครัด โดยเฉพาะในเรื่องระบบการเงิน พัสดุ
การบริหารการใช้จ่ายงบประมาณอย่างเป็นระบบสอดคล้องกับนโยบายปัญหาและความต้องการ
กระบวนการ/วิธีการดำเนินงาน
ผลการดำเนินงาน
ปัญหา/อุปสรรค
กระบวนการ 5 ขั้นตอน1. การวางแผน งบประมาณ
2. การจัดทำงบประมาณ (จัดทำโครงสร้างแผนงานตามยุทธศาสตร์ / จัดทำคำขอ งบประมาณ/ พิจารณาคำของบประมาณ)
3. การอนุมัติงบประมาณ
4. การบริหารงบประมาณ (จัดทำแผนปฏิบัติงาน/จัดทำแผนใช้จ่ายงบประมาณ/จัดสรรงบประมาณ/การใช้จ่ายงบประมาณ
5. การประเมินผล
ก่อนการดำเนินงาน
ระหว่างการดำเนินงาน
หลังการดำเนินงาน
วิธีดำเนินงาน
1.
ตรวจสอบ วิเคราะห์
ผลการดำเนินงานตามเป้าหมายผลผลิต ตัวชี้วัดความสำเร็จรายกลยุทธ์
และมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ยังไม่บรรลุผลสำเร็จ
2.
ตั้งประเด็นหรือสมมุติฐาน
เพื่อเป็นแนวทางในการหาคำตอบ โดยศึกษาองค์ประกอบ ตัวแปรของปัจจัยภายนอก (ชุมชน
ท้องถิ่น) และองค์ประกอบภายในโรงเรียน
3.
ศึกษาสภาพปัจจุบัน แก้ปัญหาตามกรณี และดำเนินการตรวจสอบงานงบประมาณที่ยังไม่ได้ดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา
4.
ผู้บริหารโรงเรียน
นิเทศและติดตามผลการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
การพิจารณาแผนและการปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติราชการ
..................................
ในกรณีสถานการณ์บังคับให้ต้องเปลี่ยนแปลงแผนปฏิบัติราชการ
โรงเรียนมีระบบในการพิจารณาปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน
โดยพิจารณา ทางเลือกในปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติการ 3 แนวทาง
ดังนี้
1.
การปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติราชการในระดับกิจกรรมของโครงการต่างๆ
อาจมีการปรับปรุง เพิ่มเติมหรือ ยกเลิกกิจกรรม แต่วัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ/กิจกรรม
ไม่มีการเปลี่ยนแปลง อาจมีการเพิ่มเติมกิจกรรม หรือการยกเลิกกิจกรรม
ให้ผู้รับผิดชอบ บันทึกข้อความเสนอผ่านงานแผนงาน เป็นผู้พิจารณาปรับได้ทันที่
แล้วเสนอผู้อำนวยการเพื่อรับทราบ เพื่อดำเนินการปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติราชการต่อไป
2.
การปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติราชการในระดับโครงการ
หมายถึง การยกเลิก หรือปรับปรุงโครงการที่มีผลทําให้วัตถุประสงค์ เป้าหมาย
หรืองบประมาณการดําเนินงานเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม อาจจะยกเลิกโครงการ
หรือการปรับปรุงโครงการ เช่น การเพิ่มเป้าหมาย หรือการลดเป้าหมาย การเพิ่มงบประมาณ
หรือ การลดงบประมาณ การปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติราชการดังกล่าว ให้ผู้รับผิดชอบ
บันทึกข้อความเสนอต่อคณะกรรมการบริหารงานโรงเรียนพิจารณาความเห็นชอบเพื่อดำเนินการปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติราชการต่อไป
3. กรณีมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเร่งด่วน เพื่อให้โรงเรียนได้ดำเนินโครงการหรือกิจกรรม ให้หัวหน้ากลุ่มงาน หัวหน้างาน หรือหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ที่เกี่ยวข้องบันทึกข้อความเสนอต่อคณะกรรมการสถานศึกษาศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนพิจารณาความเห็นชอบเพื่อดำเนินการปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติราชการต่อไป
ผลการดำเนินงาน
-
มีแผนงานโครงการครบตามมาตรฐานการศึกษาและนโยบายการศึกษา
(โครงการตามนโยบายเดิมเพิ่มเติมเป้าหมาย และโครงการตามตัวชี้วัด/นโยบายใหม่
-
มีการจัดทำข้อมูลสารสนเทศ
-
มีการจัดรายงานการประเมินต่างๆ ของสถานศึกษา
-
การจัดทำแผนปฏิบัติรายการประจำปี
และมีการใช้แผนเป็นเครื่องมือในการบริหาร
-
การจัดสรรงบประมาณสอดคล้องกับความต้องการและตอบสนองแผนปฏิบัติราชการ
- บางโครงการอยู่ระหว่างการดำเนินงานกิจกรรมย่อย
ปัญหา/อุปสรรค์ ข้อเสนอแนะ
-
ขาดการประสานงานระหว่างคณะดำเนินการหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง
-
อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานขัดข้อง
/ทำงานได้ไม่ตรงต่อความต้องการ
-
ขั้นตอนในการปฏิบัติงานของกิจกรรม /งาน/โครงการ
ไม่เป็นไปตามเวลาที่กำหนดภาระงานสอนครู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ยินดีรับฟังข้อเสนอแนะ -วันนี้คุณต้องการความช่วยเหลืออะไร Q&A ท้ายบทความ